ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซ์กระทรวงการต่างประเทศ
การรับรองเอกสารไม่ปลอมแปลงของเอกสารราชการไทย (กรกฎาคม 2568)
“การรับรองเอกสารไม่ปลอมแปลง” มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เอกสารทางราชการไทย สามารถนำไปใช้กับหน่วยงานราชการในประเทศเยอรมนีได้ โดยทั่วไป เอกสารราชการไทย เช่น สูติบัตรหรือใบสำคัญการสมรส จำเป็นต้องผ่านการรับรองเอกสารไม่ปลอมแปลงก่อนจึงจะสามารถนำไปยื่นกับหน่วยงานราชการของเยอรมันได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อหลีกเลี่ยงขั้นตอนที่อาจไม่จำเป็น ผู้ยื่นคำร้องควรตรวจสอบกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในประเทศเยอรมนีก่อนว่า เอกสารของท่านจำเป็นต้องรับรองเอกสารไม่ปลอมแปลงหรือไม่
มีแนวทางในการรับรองเอกสารไม่ปลอมแปลงของเอกสารราชการไทยเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของหน่วยงานราชการเยอรมันและศาลเยอรมัน ดังนี้
แบบเปรียบเทียบตัวอย่างลายมือชื่อ (Legalisation) ใช้กับเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการไทย ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีมีตัวอย่างลายมือชื่อและตราประทับของหน่วยงานนั้น หากลายมือชื่อและตราประทับตรงกับตัวอย่างที่มีอยู่ สถานทูตฯ สามารถรับรองเอกสาร ตามมาตรา 13 วรรค 2 ของกฎหมายกงสุล หากเอกสารนั้นไม่ตรงกับตัวอย่างลายมือชื่อหรือตราประทับที่สถานทูตมี จะใช้วิธี “ตรวจสอบเป็นลายลักษณ์อักษร” แทน
การตรวจสอบเป็นลายลักษณ์อักษร (Legalisationsersatzverfahren) สถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี กรุงเทพฯ จะดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารโดยจะประสานงานโดยตรงกับหน่วยราชการไทยที่ออกเอกสาร เพื่อขอการยืนยันว่าเอกสารนั้นออกโดยหน่วยราชการดังกล่าวจริง มีข้อมูลในระบบทะเบียน หรือในบางกรณีมี “ต้นขั้ว” ที่ทางราชการไทยเก็บรักษาไว้ เมื่อหน่วยงานไทยที่เกี่ยวข้องได้ยืนยันความถูกต้องแล้ว สถานทูตฯ จะประทับตรารับรองบนเอกสารฉบับนั้น ซึ่งแนวทางการตรวจสอบลักษณะนี้ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนี
การยื่นคำร้อง
กรณีเจ้าของเอกสารมาดำเนินการด้วยตนเองที่สถานทูตฯ ไม่ต้องกรอกคำร้องใดๆ หากไม่สามารถมายื่นเองได้ สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่น เช่น สมาชิกในครอบครัว คนรู้จัก หรือผู้ให้บริการ มาดำเนินการแทนได้ โดยต้องมีหนังสือมอบอำนาจที่ลงนามโดยเจ้าของเอกสาร
หลังจากสถานทูตฯ ได้รับเอกสารตัวจริงแล้วจึงจะพิจารณาได้ว่าเป็นการรับรองแบบเปรียบเทียบตัวอย่างลายมือชื่อ หรือแบบตรวจสอบเป็นลายลักษณ์อักษร สถานทูตฯ ไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อหน่วยงานราชการไทยที่สถานทูตฯ มีตัวอย่างลายมือชื่อและตราประทับได้ การยื่นคำร้องต้องทำการนัดหมายล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น
การจองนัดหมาย
ท่านไม่จำเป็นต้องให้ผู้บริการทำการนัดหมาย หรือมาดำเนินการที่สถานทูตฯ แทน เนื่องจากท่านสามารถจองวันนัดหมายได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผ่านเว็บไซต์ www.bangkok.diplo.de ตามวันและเวลาที่ว่าง บริการทั้งหมดที่ระบุไว้บนเว็บไซต์ของสถานทูตฯ มีระบบจองเป็นภาษาเยอรมัน ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ การนัดหมายเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงได้ และสถานทูตฯ ไม่มีข้อตกลง หรือให้สิทธิพิเศษใดๆ กับผู้ให้บริการทุกรายในประเทศไทย
การยื่นรับรองเอกสารไม่ปลอมแปลง สามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองหรือมอบหมายให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน โดยมีนัดหมาย 2 ประเภท ให้เลือก ดังนี้
หากท่านเป็นเจ้าของเอกสารและต้องการมาติดต่อด้วยตนเอง กรุณานัดหมายผ่านลิงก์นี้:
จองคิวออนไลน์ -> การรับรองเอกสารไม่ปลอมแปลง -> การรับรองเอกสารไม่ปลอมแปลง-เจ้าของเอกสารต้องมายื่นเอกสารด้วยตนเอง
หากท่านมอบหมายให้ผู้อื่นมาดำเนินการแทน สามารถนัดหมายผ่านลิงก์:
จองคิวออนไลน์ -> การรับรองเอกสารไม่ปลอมแปลง
กรณีมอบหมายให้บุคคลอื่นมาดำเนินการแทน จำเป็นต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจที่ เจ้าของเอกสารลงนามจริง
แบบฟอร์มหนังสือมอบอำนาจ
เอกสารที่ใช้ในการยื่นคำร้อง
ในการยื่นคำร้องขอรับรองเอกสารไม่ปลอมแปลง จำเป็นต้องแสดงเอกสารดังต่อไปนี้
เอกสารตัวจริง (ในกรณียกเว้นที่มีเหตุผลอันสมควร สามารถใช้เอกสารที่คัดรับรองสำเนาถูกต้องจากหน่วยราชการผู้ออกเอกสารแทนได้)
สำเนาขาวดำอย่างละ 2 ชุด สำหรับเอกสารแต่ละฉบับ
เอกสารที่ชำรุดเสียหายหรือเคลือบพลาสติก จะไม่สามารถทำการรับรองได้
และไม่จำเป็นต้องแนบคำแปลเอกสารมาด้วย
กรณีเอกสารเก่า เช่น สูติบัตรที่ออกให้ก่อนปี พ.ศ. 2523 (ค.ศ.1980) ท่านควรติดต่อหน่วยราชการไทยที่เก็บรักษาต้นขั้วสูติบัตรเพื่อขอคัดรับรองสำเนาถูกต้องจากต้นขั้วดังกล่าว หากหน่วยราชการไม่มีต้นขั้วของสูติบัตรแล้ว ท่านสามารถยื่นขอหนังสือรับรองการเกิดเพื่อใช้แทนสูติบัตรได้ ทั้งนี้ เจ้าของเอกสารต้องเขียนยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรด้วยว่าได้ติดต่อขอคัดรับรองสำเนาต้นขั้วสูติบัตรจากหน่วยราชการแล้ว แต่ไม่พบต้นขั้วดังกล่าว
ค่าธรรมเนียม
ในวันที่ยื่นคำร้อง ต้องชำระค่าธรรมเนียมทันทีเป็นเงินสด (สกุลเงินบาท) ตามอัตราแลกเปลี่ยนประจำวันที่สถานทูตฯ กำหนด
ค่าธรรมเนียมรับรองเอกสารต่อฉบับ
แบบเปรียบเทียบตัวอย่างลายมือชื่อ 31.00 ยูโร
แบบตรวจสอบเป็นลายลักษณ์อักษร 36.00 ยูโร
ผู้ยื่นคำร้องสามารถมารับเอกสารคืนด้วยตนเอง หรือขอให้จัดส่งทางไปรษณีย์ภายในประเทศไทยได้โดยท่านสามารถซื้อซองไปรษณีย์ ณ จุดบริการของ บริษัท ไปรษณีย์ไทยภายในห้องรับรองแขกของสถานทูตฯ
ระยะเวลาดำเนินการ
แบบเปรียบเทียบตัวอย่างลายมือชื่อ: 3 ถึง 4 วันทำการ
แบบตรวจสอบเป็นลายลักษณ์อักษร: 6 ถึง 8 สัปดาห์
เพื่อให้การตรวจสอบเอกสารดำเนินการไปอย่างรวดเร็วสถานทูตฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่ตอบคำถามเกี่ยวกับความคืบหน้าของการดำเนินการ หากยังไม่ถึง 8 สัปดาห์
การยื่นคำร้องจากประเทศเยอรมนี
การยื่นคำร้องแบบลายลักษณ์อักษรจากประเทศเยอรมนี สามารถทำได้เฉพาะในกรณีที่ท่านแสดงหลักฐานว่า ไม่มีญาติ คนรู้จัก หรือบุคคลที่ไว้วางใจในประเทศไทย และท่านมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในประเทศเยอรมนีเท่านั้น
กรุณาส่งเอกสารที่ประสงค์จะให้รับรองมาล่วงหน้าทางอีเมล legalisation@bangk.auswaertiges-amt.de
เมื่อสถานทูตฯ ตรวจสอบเอกสารของท่านในเบื้องต้นแล้ว สถานทูตฯ จะส่งข้อมูลเพิ่มเติม และหนังสือรับรองการรับผิดชอบค่าธรรมเนียม (Kostenübernahmeerklärung) กลับไปให้ท่านทางอีเมล
เมื่อสถานทูตฯ ได้รับเอกสารตัวจริงและดำเนินการตรวจสอบเสร็จสิ้นตามขั้นตอนแล้ว สถานทูตฯ จะจัดส่งคืนเอกสารของท่านทางไปรษณีย์พร้อมใบแจ้งยอดค่าใช้จ่าย (Festsetzungsbescheid) ซึ่งระบุค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระและข้อมูลบัญชีธนาคารของกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี ไปยังที่อยู่ของท่านในประเทศเยอรมนี
หากมีการส่งเอกสารใดๆ มายังสถานทูตฯ โดยไม่ผ่านการตรวจสอบล่วงหน้า สถานทูตฯ จะไม่ดำเนินการใดให้ และท่านจะต้องมารับเอกสารคืนด้วยตนเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นมารับแทน ในกรณีนี้ สถานทูตฯ ไม่สามารถส่งเอกสารคืนให้ทางไปรษณีย์ได้
สถานทูตฯ จะไม่แจ้งยืนยันการรับเอกสารที่จัดส่งเข้ามา
รวมถึงไม่สามารถแจ้งสถานะการดำเนินการให้แก่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักทะเบียน หรือหน่วยงานอื่นใดในประเทศเยอรมนีทราบได้เช่นกัน
แผนกรับรองเอกสารไม่ปลอมแปลง เปิดทำการวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08:30-11:30 น. ที่เคาน์เตอร์ 4 – 6 สำหรับผู้ที่ทำการนัดหมายผ่านระบบออนไลน์ บนเว็บไซต์ของสถานทูตฯ ล่วงหน้าเท่านั้น
---
การสงวนสิทธิ์
ข้อมูลทั้งหมดในเอกสารฉบับนี้มาจากประสบการณ์และข้อมูลของสถานทูตฯ ณ เวลาที่จัดทำเอกสาร สถานทูตฯ ไม่สามารถรับรองความถูกต้องหรือความครบถ้วนของข้อมูลทั้งหมดได้ และขอสงวนสิทธิปฏิเสธความรับผิดชอบและการเรียกร้องสิทธิ์ใด ๆ ทางกฎหมาย เช่นเดียวกัน สถานทูตฯ ไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหาย รวมถึงการสูญหายของเอกสาร ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการจัดส่งทางไปรษณีย์